Tuesday, September 26, 2006

The Coup d'etat Show

credit to www.bangkokbiznews.com for this picture

ครบรอบหนึ่งสัปดาห์พอดิบพอดี สำหรับการทำรัฐประหารยึดอำนาจของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือในชื่อย่อว่า คปค จากรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร จะไม่เขียนอะไรในบล็อกเลย ก็จะดูไม่อินเทรนด์กับเหตุการณ์ที่เป็นข่าวใหญ่โตไปทั่วโลก รวมถึงในญี่ปุ่นก็ขึ้นหัวข่าวเป็นอันดับหนึ่งคู่กับการได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคแอลดีพีคนใหม่ของนายชินโซะ อาเบะ แทนนายกรัฐมนตรีจุนชิอิโร่ โคอิสุมิ แล้วก็วันนี้เองที่ครม.ของนายกโคอิสุมิได้ประกาศลาออกทั้งคณะ และเปิดทางให้นายอาเบะ เป็นนายกญี่ปุ่นที่อายุน้อยที่สุดหลังจากสิ้นสงครามโลกครั้งที่2ในเร็ววันนี้ หรือว่านี่จะเป็นเพลาที่โชคชะตาท่านผู้นำผู้ทรงอำนาจในหลายๆที่จะต้องถูกผลัดเปลี่ยนส่งไม้ให้คนอื่น ไม่ว่าจะลงจากตำแหน่งอย่างสง่างามหรือไม่ก็ตาม

วันนี้เลยขอเขียนบล็อกเป็นภาษาไทย เพื่อที่จะได้แสดงความคิดเห็นส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ในเรื่องของการยึดอำนาจของพลเอกสนธิ บุญรัตกลินในครั้งนี้ได้อย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่าทาง คปค. จะออกประกาศให้แสดงความเห็นทางการเมืองอย่างเป็นกลาง แต่ผมว่าคนเรา ยากนักที่จะมีความเป็นกลางอย่างแท้จริง แต่เราจำเป็นต้องเลือกข้างอย่างที่อดีตนายกอานันท์ ปันยารชุนเคยให้สัมภาษณ์ไว้ แต่การเลือกข้าง ไม่ใช่ว่าเลือกอยู่ข้างใคร แต่ต้องเลือกอยู่ข้างความถูกต้องนั่นเอง หลายๆความเห็นทั้งจากสื่อต่างชาติ หรือบางประเทศ รวมถึงนักวิชาการรัฐศาสตร์บางส่วน อาจจะไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร เพราะถือว่าเป็นการก้าวถอยหลังของการปกครองแบบประชาธิปไตย แต่ระบบการปกครองทั้งหลายก็มิใช่มนุษย์หรือที่สร้างขึ้นมาเอง การยึดถือระบบแต่เพียงอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงหลักอื่นประกอบกัน เช่น หลักจริยธรรม หรือทศพิธราชธรรม ก็อาจจะมีผลทำให้คนบางกลุ่มเอาระบบมาเล่นเพื่อให้สร้างความชอบธรรมให้กับตนเองได้เช่นกัน

ถ้าจะถามว่าผมเห็นด้วยกับการทำรัฐประหารครั้งนี้หรือไม่ คำตอบแรกที่ออกมาน่าจะเป็นว่า รู้สึกตกใจที่ได้ข่าวว่าจะต้องเจอกับเหตุการณ์นี้อีกครั้งในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาก้าวไกล ผมยังจำได้เมื่อตอนป.6 ได้หยุดโรงเรียนเป็นสัปดาห์ เมื่อตอนที่คณะ รสช. ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหวัณ ขณะนั้นมีแต่ความรู้สึกดีใจที่ไม่ต้องไปโรงเรียน แม้จะต้องฟังคนหน้าตาขึงขังมาประกาศทางทีวีอยู่เป็นระยะๆก็ตาม แต่จากจุดนั้นอาจจะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ผมเริ่มสนใจการเมือง แต่ติดตามข่าวสารทางการเมืองอย่างใกล้ชิดอย่างที่ทำอยู่ในปัจจุบันก็เป็นได้ คราวนั้นจำไม่ได้ว่ารู้ข่าวเมื่อไหร่ว่ามีการปฏิวัติรัฐประหาร แต่สำหรับคราวนี้นั้น คืนวันที่19 ผมกำลังนอนหลับอย่างสบายที่บ้านของโฮสท์แฟมมิลี่ กลางไร่นา ที่จังหวัดคาโกชิม่า ทางตอนใต้ของเกาะคิวชู แล้วจู่ๆตอนตีหนึ่งก็มีเสียงปลายสายจากเพื่อนที่เกียวโตดังขึ้น ยกหูรับโทรศัพท์ก่อนจะได้ยินว่า "ปฏิวัติแล้วๆ" ตาที่ยังปรือๆ เริ่มลุกโพลง แล้วถามถึงเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาประมาณห้าทุ่มที่เมืองไทย เหตุการณ์ยังไม่มีความชัดเจนแน่นอนว่าใครเป็นฝ่ายทำการปฏิวัติ จากนั้นก็พยายามจะนอนหลับต่อ แต่สุดท้ายต้องโทรกลับบ้านที่เมืองไทยถึงสองครั้ง จนครั้งหลัง (ประมาณตีสองครึ่ง) ถึงได้รู้ว่า พลเอกสนธิ ได้ออกแถลงการณ์ของคณะ คปค.แล้ว จึงนอนหลับได้อย่างสบายใจ

ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วก็ไม่อยากเห็นประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตกทม.มีรถถังมาวิ่งป้วนเปี้ยนเต็มถนน เพราะมันให้ความรู้สึกที่ออกจะน่ากลัว เหมือนเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน(ตามที่ต่างประเทศมอง) แต่การทำรัฐประหารคราวนี้ กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง เพราะทหารที่ทำการรัฐประหารในครั้งนี้กลับกลายเป็นความไว้วางใจที่ประชาชนส่วนใหญ่ในเมืองพอใจ เพราะหวังว่าความแตกต่างทางความคิดของคนในสังคมที่นำไปสู่ความแตกแยกอย่างกว้างขวางนั้น จะสิ้นสุดลงหรืออย่างน้อยก็ลดความรุนแรงลงไป ต้นเหตุทั้งหมดนี้มาจากบุคคลคนเดียวที่ทำให้สังคมไทยเกิดความแตกแยกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมคนหนึ่งที่ยอมรับในความแตกต่างทางความคิด แต่ไม่สนับสนุนให้สิ่งเหล่านี้เป็นความแตกแยกกัน ผมเองก็มีพี่ที่สนิทคนหนึ่งที่มีความเห็นทางการเมืองที่ต่างกัน แต่ก็สามารถทำงานร่วมกัน ไปเที่ยวด้วยกันได้อย่างไม่ขัดใจ


การที่บ้านเมืองไทยในขณะนี้ ดูเหมือนจะเป็นการถอยหลังเข้าคลองของระบบประชาธิปไตยอย่างที่หลายๆคนว่ากัน แต่กลับจะเป็นการเดินหน้าทางจริยธรรมและธรรมาภิบาลของผู้ที่จะเข้ามาเป็นผู้บริหารประเทศในอนาคตต่อไป จากนี้ไปคงต้องดูการดำเนินการของคณะทำงานต่างๆที่เกิดขึ้นในการตรวจสอบเอาความผิดกับรัฐบาลชุดก่อนได้มากแค่ไหนในเรื่องคอรัปชั่นซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักของการทำรัฐประหารในครั้งนี้นอกจากเรื่องความแตกแยกในสังคมไทยแล้ว เพราะถ้าหากไม่สามารถตรวจสอบว่ารัฐบาลชุดก่อนทำการคอรัปชั่นอย่างร้ายแรงจริง ก็เท่ากับว่า คปค. ไม่ได้ให้เหตุผลที่ถูกต้องพอที่จะทำการยึดอำนาจในครั้งนี้ เพียงแต่หวังว่าจะสามารถเอาผิดกับคนผิดได้ถึงต้นตอ เพื่อที่จะได้เป็นแบบอย่างกับนักการเมืองที่มักจะเข้ามาหาผลประโยชน์ต่างๆนานาในการเข้ามาเป็นผู้แทน หรือเป็นผู้บริหารบ้านเมืองให้ขยาดกลัวกับกฏหมายบ้านเมืองที่เอาผิดกับผู้ที่คิดชั่วเอาผลประโยชน์ใส่ตัว

จากวันนี้ไป ประชาธิปไตยในประเทศไทยจะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ถอยหนึ่งก้าวเพื่อก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน ประเทศไทยคงจะต้องตอบโจทย์ว่าทำอย่างไรจึงจะสามารถสร้างความสมดุลระหว่างระบบทุนนิยมที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกให้ไปได้กับเศรษฐกิจพอเพียงและมีธรรมาภิบาล เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับประเทศอย่างยั่งยืนทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมวัฒนธรรม รวมทั้งการสร้างทรัพยากรมนุษย์ให้มีการศึกษาอย่างทั่วถึงพร้อมกับสนับสนุนการวิจัยโดยเฉพาะการเกษตรเพื่อที่ประเทศไทยจะได้ยืนด้วยขาของตัวเองได้สักที และรักษาทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆของเราไว้และจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

This is one of the most peaceful and grateful coup d'etat that I've ever seen.
The democratic system is not always the final solution for the country.
The coup d'etat is not always the bad thing that will destroy the democratic system as well.
The system should be corrected if a person in power used it in the worng way.
The show must go on. Keep one step back for sustainable future.
I believe that the army of the king will do their best for our nation and people.

เขียนโดย วีรวุฒิ ชัยวัฒน์, 26 ก.ย. 49 มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญีปุ่น

4 Comments:

At 10:21 PM, Blogger *BoW* said...

เชื่ออย่างพี่น็อต..

บางอย่างถ้าไม่ยอมถอยหลังกลับไปบ้าง แต่ก็ยังยื้อที่จะเดินก้าวไปข้างหน้าทั้งๆที่ทางข้างหน้ามันจะขาดๆอยู่แล้วมันคงเป็นการก้าวหน้าที่ไม่มั่นคงแน่ๆ สู้เดินถอยหลังกลับมาซ่อมทางก่อนแล้วค่อยเดินต่อไปเพื่อที่จะได้เป็นการเดินหน้าที่มั่นคงดีกว่า

มีเรื่องแอบหงุดหงิดเล็กน้อย ไม่เข้าใจทำไมเมืองไทยชอบทำโพลงี่เง่าๆ เมื่อวานฟังข่าวมีการสำรวจว่า "ประชาชนอยากได้นายกที่มีคุณลักษณะแบบไหน" คำตอบก็นะ.. ซื้อสัตย์ เป็นคนดี มีศีลธรรม ฯลฯ

จะสำรวจไปทำไมให้เสียเวลาเนี่ย แล้วมันจะหาได้ม๊ายยยยย กว๊ากกกกก

 
At 11:06 PM, Anonymous Anonymous said...

สุดยอด!! ขนาดอยู่ญี่ปุ่นยังสามารถเกาะติดสถานการณ์แล้ววิจารณ์ได้ยาวเหยียดขนาดนี้

ถ้าเป็นไปได้ เราเชียร์ให้น็อตลงเล่นการเมืองนะ
(เคยเขียนไว้แล้วในเฟรนด์ชิปสมัยจบ ม.5 ไง)

 
At 12:57 PM, Blogger Eddie said...

hallo, why you didnt allign ur text properly...

 
At 3:22 PM, Anonymous Anonymous said...

[B]NZBsRus.com[/B]
Dismiss Sluggish Downloads With NZB Downloads You Can Hastily Search High Quality Movies, Games, MP3s, Software & Download Them @ Flying Speeds

[URL=http://www.nzbsrus.com][B]NZB Search[/B][/URL]

 

Post a Comment

<< Home